วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

บำรุงให้ถูกหลักห่างไกล “สมองเสื่อม”

คิดๆ เท่าไรคิดไม่ออกสักที เชื่อว่าหลายคนเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้ ยามสมองมึนๆ ตื้อ คิดไม่ออก นั่นก็เพราะสมองขาดการบำรุงดูแลเอาใส่ใจนั่นเอง ทั้งที่ “สมอง” เป็นอวัยวะสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าส่วนไหนๆ ด้วยเหตุนี้ ซาน โบเวอร์แมน นักโภชนาการที่ปรึกษาเฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด  จึงแนะเคล็ด (ไม่) ลับ บำรุงให้สมองแล่น แบบง่ายๆ ใกล้ตัวให้คงสมรรถภาพดีเยี่ยมแข็งแรงตลอดชั่วอายุ  เอาฤกษ์เอาชัยรับปีใหม่กัน 
“ผัก ผลไม้ ออกกำลังกาย ดีต่อความทรงจำ” สิ่งที่ดีต่อร่างกายคือ สิ่งที่ดีต่อสมองเช่นเดียวกัน อาหารที่ทำให้สมองแข็งแรง จึงเป็นอาหารชนิดเดียวกับกลุ่มอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและโรคเบาหวาน อาหารจำพวกนี้ได้แก่ ผักและผลไม้, “โฮลเกรน” ธัญพืชเต็มเมล็ดไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีน้อยที่สุด, ไขมันดี และอาหารที่ให้โปรตีนแต่ไขมันต่ำ นอกจากนี้การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะส่งเสริมให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
เติมพลังงานให้สมอง ด้วย “กลูโคส” ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากการย่อยของอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง การมีกลูโคสในเลือดปริมาณเหมาะสม มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างพลังงานแก่สมอง สังเกตได้จากการที่เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือเวียนศีรษะ หากต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่มีอาหารตกถึงท้อง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบทำให้สมองไม่สามารถคิดอย่างมีประสิทธิภาพได้ ด้าน คาร์โบไฮเดรต ควรเลือกรับประทานชนิดดี พบในผัก, ผลไม้, ธัญพืชโฮลเกรน ถั่ว และน้ำตาลธรรมชาติในผลิตภัณฑ์นม ส่วนขนมหวานและลูกกวาด ไม่ใช่อาหารที่เสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้มีสุขภาพดี เพราะไม่มีวิตามิน, เกลือแร่ และสารอื่นๆ จากพืช
“ไขมันและกรดไขมัน” น้ำหนักของสมองประกอบด้วยไขมันร้อยละ 70 ล้วนถูกหุ้มด้วยปลอกที่เป็นไขมัน ดังนั้นร่างกายจึงต้องการไขมันดี เพื่อทำให้โครงสร้างของสมองแข็งแรง การบริโภคเนื้อปลาและอาหารเสริมพวกน้ำมันปลา ซึ่งเป็นแหล่งให้ “ดีเอชเอ” ดีที่สุดแหล่งหนึ่งอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้ยังพบในถั่วล้วนอุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวและมีวิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ด้าน โปรตีน ก็เป็นอีกปัจจัย เนื่องจากกรดอะมิโนจากโปรตีน ถูกนำไปใช้สร้าง “สารสื่อประสาท” สารเคมีพิเศษที่เซลล์สมอง ใช้ในการรับและส่งสัญญาณต่างๆ พบได้ใน ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง, ถั่วลันเตา และถั่วเมล็ดแบน โปรตีนจากสัตว์ เช่น อาหารทะเล, เป็ด, ไก่, เนื้อไร้มัน และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ
การบริโภค ผักและผลไม้หลากสี ช่วยลดผลกระทบอันไม่พึงประสงค์จากอนุมูลอิสระต่อสมอง พร้อมยังเป็นแหล่งอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ เช่น กรดโฟลิก ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง ต้องมีปริมาณมากเพียงพอ เพื่อช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพ พบมากในผักใบเขียว อาทิ ผักขม ในสมุนไพรและเครื่องเทศ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการบริโภคอาหารแบบ “เมดิเตอร์เรเนียน” เน้นการกินผัก ผลไม้ อาหารทะเล ธัญพืชแบบโฮเกรน ถั่ว ไขมันดีหรือไขมันเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพสมองเป็นเพราะอาหารรูปแบบนี้ ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว ความดันโลหิต และปริมาณคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับปกติ การมีน้ำหนักเกินมาตรฐานและโรคอ้วนที่พบในประชากรวัยกลางคน จะก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม ความเสี่ยงดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มขึ้นตามค่าของความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้น และระดับคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือดที่สูงขึ้น.  credit นสพ.เดลินิวส์

เลี่ยง 'แก่ก่อนวัย' ด้วย 5 นิสัยสร้างผิวสวย


เลี่ยง 'แก่ก่อนวัย' ด้วย 5 นิสัยสร้างผิวสวย

ผิวสวยสดใสของวัยสาวคือ สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากครอบครองไว้ให้นานเท่านาน แต่กลับละเลยใส่ใจดูแลผิวพรรณตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เกิดปัญหาสะสมและส่งผลเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าสีผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ ผิวแห้งกร้านแถมยังขาดความกระชับ เกิดริ้วรอยแก่ก่อนวัยซึ่งยากต่อการดูแลเมื่อเกิดขึ้น ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ และ อาวียองซ์ อะคาเดมี เผยถึง 5 นิสัยที่สาววัยใสควรเรียนรู้สู่ผิวสวยในวันหน้าว่า สาววัยใสควรหันมาใส่ใจ และสำรวจพฤติกรรมของตัวเองเพื่อผิวสวยยาวนาน โดยเริ่มจาก อาหารการกิน ปัจจุบันเด็กวัยรุ่นนิยมกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ของทอด น้ำหวาน น้ำอัดลม ซึ่งประกอบด้วยไขมันชนิดเลวและน้ำตาลขัดขาว ส่งผลในเรื่องโรคอ้วน ตามมาด้วยไขมันอุดตัน และเบาหวาน และยังส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งและหยาบกร้านเกิดริ้วรอยง่าย หากเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพควรกินให้ครบ 5 หมู่ ในแต่ละมื้อ เน้นคาร์โบไฮเดรตมื้อเช้า เลี่ยงอาหารทอด ผัดที่ใช้น้ำมัน กินโปรตีนอย่างไข่ขาว เต้าหู้ เนื้อปลาไขมันต่ำ กินผักสดหลากสีเพราะมีวิตามินบำรุงผิว เปลี่ยนการดื่มน้ำอัดลม ของหวานต่าง ๆ มาเป็นผลไม้ กากใยช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ผิวจึงดูสดใสและควรดื่มน้ำทุกชั่วโมง เพื่อผิวแข็งแรงและอิ่มเอิบ

นอกจากการเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การนอนหลับพักผ่อน ก็มีความสำคัญ การนอนดึกหลังเที่ยงคืนและตื่นสาย เพื่อให้ได้จำนวนชั่วโมงมาก ๆ ไม่ช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้นได้ และยังส่งผลเสียต่อกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ซึ่งรวมถึงผิวพรรณเพราะทำให้การหลั่งฮอร์โมนซ่อมแซมตัวเองบกพร่องไปด้วย หากทำเป็นนิสัยเมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณดูโทรม หมองคล้ำ และอ้วนง่ายกว่าคนที่เข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นเช้ากว่า ต่อมาคือ การออกกำลังกาย หากเจียดเวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนใต้ผิวหนัง พร้อมระบบกล้ามเนื้อและระบบการหายใจยังดีขึ้น โดยสาว ๆ ที่ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอจะมีผิวพรรณที่สดใสแข็งแรงกว่าคนในวัยเดียวกัน

ขณะที่ การดูแลผิวพรรณ ภายนอกก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การใช้ผลิต ภัณฑ์ดูแลผิวตั้งแต่ผิวยังไม่มีปัญหา เป็นเคล็ดลับสำคัญในการคงสภาพผิววัยใสให้นานที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด วัยรุ่นควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวทั้งเช้าและเย็น ไม่ควรใช้สบู่ชำระร่างกายมาใช้กับผิวหน้า ทาครีมบำรุงทั้งเช้าและเย็นควรเลือกที่มีเนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาเหมาะกับสภาพผิวพื้นฐาน และทาโลชั่นกันแดดทุกเช้าแม้วันที่ไม่มีแดด สุดท้ายส่งผลให้ผิวสวยได้เช่นกันคือ เรื่องของ อารมณ์จิตใจ สาวคนใดเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิด ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด ซึ่งส่งผลให้อวัยวะทำงานแปรปรวน หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เกิดสารพิษอนุมูลอิสระทำร้ายตัวเองรวมถึงผิวพรรณ โดยผิวจะหยาบกร้าน หมองคล้ำ ไม่ชวนมอง ดังนั้นสาววัยรุ่นควรอารมณ์ดี ไม่โกรธหรือหงุดหงิดง่าย และยังว่ากันว่าการนั่งสมาธิอย่างน้อย 10-15 นาทีต่อวัน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และหลั่งสารอารมณ์ดีที่ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสออกมา.  credit นสพ.เดลินิวส์

สรรพคุณของพืชผัก


สรรพคุณของพืชผัก





credit postjung.com

12 สิ่งที่สาว ๆ ผู้รักสุขภาพๆ ไม่ควรพลาด


ร่างกายของใคร ใครก็รัก และการดูแลให้มันอยู่ในสภาพที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เราจึงนำ 12 เคล็ดลับรักษาสุขภาพจาก นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ มาบอกกัน

1.ฝึกสมองสม่ำเสมอ

ช่วงหลังเราพบสุภาพสตรีที่เป็นโรคเกี่ยวกับความจำหรือโรคอัลไซเมอร์มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นเราอาจจะมีความเสี่ยง แม้จะไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็เชื่อว่าบางอย่างสามารถป้องกันได้ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นโรคนี้ หรือชะลอให้ช้าลง เคล็ดลับก็คือพยายามฝึกใช้สมองและพักผ่อนสมองบ้าง อาจจะเป็นการเล่นกีฬา การเรียนดนตรี หรือการเล่นเกมก็จะทำให้สมองได้ฝึกด้วยเช่นกัน

 2.มีวินัยเพื่อหัวใจที่แข็งแรง

เราพบว่า ผู้หญิงสมัยนี้เป็นโรคหัวใจมากขึ้น อาจเป็นเพราะเดี๋ยวนี้ผู้หญิงสูบบุหรี่ เครียดจัด หรืออาจเป็นเพราะอาหารฟาสต์ฟู้ด ก็จะทำให้มีไขมันในเลือดสูงขึ้น และทำให้เกิดโรคหัวใจได้ด้วย แต่นี่เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ด้วยการดูแลเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลัง

 3.ตรวจเต้านมด้วยตนเอง

ผู้หญิงสามารถดูแลมะเร็งเต้านมได้ด้วยตัวเองโดยการคลำทรวงอก โดยเฉพาะหลังประจำเดือนครั้งสุดท้ายหมดไป 5-7 วัน เพื่อที่จะค้นหาความผิดปกติอาจจะเป็นซีสต์ หรือเนื้องอกต่าง ๆ ซึ่งการที่เรารู้จักการตรวจด้วยตัวเองจะช่วยให้เราพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ เนิ่น ๆ ถ้าเรามาพบแพทย์ แพทย์จะพิจารณาว่าจะเราจะต้องแมมโมแกรมหรือเปล่า ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องตรวจ

 4.กินให้ดีเพื่อกระเพาะ

ด้วยไลฟ์สไตล์อย่างเช่นความเครียด กินอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารไขมันสูง หรือกินอาหารไม่ตรงเวลา เราจึงพบโรคกระเพาะในสุภาพสตรีได้บ่อยขึ้น วิธีป้องกันก็คือ กินอาหารให้ตรงเวลา พยายามอย่ากินอาหารที่มีรสจัดมากเกินไป เช่น อาหารเผ็ดจัด เค็มจัด ควรจะหลีกเลี่ยง

 5.อย่าลืมถุงน้ำดี

เป็นที่พักของน้ำดีเอาไว้ย่อยอาหาร หมอพบบ่อยมากในคนไข้ที่อ้วนอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดี หรือถุงน้ำดีอักเสบได้ ซึ่งอาการก็จะมีปวดท้องบ่อย ๆ เป็น ๆ หาย ๆ หรือก็จะมีไข้สูง เพราะฉะนั้น หากมีอาการดังที่กล่าวมา ก็ควรมาอัลตราซาวนด์ตรวจเช็กด้วย มิเช่นนั้นก็จะไม่หายนะครับ

 6.นั่งให้ถูกท่า ห่างไกล Office Syndrome

ตอนนี้เรามีโรคเกี่ยวกับออฟฟิศซินโดรม คือกลุ่มอาการที่เกิดกับพวกที่ทำงานออฟฟิศ เช่น เรื่องของการปวดหลังจากการนั่งไม่ถูกท่า หรือการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป เวลานั่งก็ควรตั้งลำตัวตรง เอนหลังได้ เมื่อนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เกิน 45 นาที ควรจะพัก 10 นาที เพราะนั่งนาน ๆ จะมีความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณหลังตามมา ถ้าเป็นมาก ๆ ก็อาจเป็นเรื่องของหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือว่าเคลื่อนได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการพักของแต่ละอวัยวะพอสมควร และก็ต้องมีการพักสายตาด้วยเหมือนกัน เวลาจ้องคอมพิวเตอร์ก็จะปวดหัว เพราะต้องใช้สายตาและกล้ามเนื้อที่คอ ตรงนี้ก็จะปวดคอได้อีก

 7.ออกกำลัง

กลับมาเรื่องเดิม การออกกำลังช่วยในเรื่องทั้งร่างกายและจิตใจ แนะนำให้ออกกำลังสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 1-2 ชั่วโมง อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก็ได้ จิตใจที่เบิกบานแจ่มใสจะอยู่ในร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์นะครับ

 8.ตรวจภายใน (ซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่คิด)

พอเริ่มเข้าสู่เบญจเพส โอกาสเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกก็มี ไม่ใช่แค่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำหรับคนที่อายุยังน้อยและไม่อยากตรวจภายใน สมัยนี้ก็มีการตรวจอัลตร้าซาวนด์เช็กอวัยวะภายในอย่างปีกมดลูก หรือรังไข่ได้
ส่วนคนที่มีประจำเดือนมากผิดปกติ มีอาการปวดผิดปกติ มาไม่สม่ำเสมอ มากกว่าหนึ่งครั้งต่อเดือน หรือว่ามาแบบกะปริบกะปรอยก็มีความจำเป็นต้องตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อค้นหาความผิดปกติของมดลูก เช่น เนื้องอก หรือแม้แต่มะเร็งปากมดลูก

 9.ผ่อนคลายข้อเท้าบ้าง

สุภาพสตรีหลายคนใส่ส้นสูง แต่อาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการล้ม พอใส่นาน ๆ ไปก็อาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณฝ่าเท้า จึงต้องคอยดู ให้เท้าพักบ้าง เพราะการไหลเวียนโลหิตจะไม่ค่อยดี วิธีแก้คือ ขยับข้อเท้าบ้าง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น การบีบนวดก็ช่วยได้ ทำให้เกิดการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณนั้น

 10.ดูแลจิตใจ

สภาพของสังคมสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ต้องแข่งขันกันเยอะ ไลฟ์สไตล์แบบนี้ทำให้เกิดความเครียด ยิ่งในสุภาพสตรี บางครั้งเรื่องของฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้เราหงุดหงิดมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่สูงวัยก็จะมีความแปรปรวนของอารมณ์ได้ ต้องหมั่นมีความคิดที่เป็นด้านบวกนิดนึงนะครับ จะทำให้เราดำเนินชีวิตในแง่บวก และทำใจยอมรับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

 11.ลดปวดรอบเดือนได้ด้วยตัวคุณเอง

บางครั้งผู้หญิงอาจจะมีอาการปวดท้อง เป็นไข้ในช่วงที่มีประจำเดือน บางคนก็เป็นมากเลย ในกรณีที่เราจะดูแลสุขภาพการมีรอบเดือนเนี่ย ก็อาจจะออกกำลังสักหนึ่งสัปดาห์ก่อนมีรอบเดือน ก็จะทำให้เราลดอาการปวดท้องจากการมีรอบเดือนได้ และควรจะงดอาหารประเภทที่มีไขมันสูง และกินอาหารที่มีวิตามิน แคลเซียม และธาตุเหล็กให้มากขึ้น เพราะในเวลาที่มีประจำเดือนจะมีการเสียแร่ธาตุเหล่านี้ไป

 12.อย่าอั้นถ้าปวดเบา

ด้วยสรีระของผู้หญิงการที่เรากลั้นปัสสาวะนาน ๆ หรือดื่มน้ำน้อย ก็จะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในยุคปัจจุบันที่เร่งรีบทุกอย่าง การกินอยู่ หรือการเดินทางเวลารถติด ทำให้ผู้หญิงเข้าห้องน้ำไม่ได้ ก็ต้องกลั้นไว้ วิธีป้องกันก็คือ ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว อย่ากลั้นปัสสาวะ ถ้าปวดต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที ถ้ารถติดก็ต้องแวะเข้าห้องน้ำครับ












ที่มา : Lisa  credit สยามดารา